เรื่องราวของนาฬิการุ่นแรกของโลก

จากหลักฐานข้อมูลในเว็บไซต์ไทยกู้ดวิว พบว่านาฬิกาเรือนแรกของโลกนั้นก็คือดวงอาทิตย์นั่นเองซึ่งมีชื่อว่า “นาฬิกาแดด”  มนุษย์ในยุคสมัยก่อนจะใช้การเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์มาเป็นตัวชี้วัดในการบอกเวลาโดยใช้วิธีการสังเกต หรืออ่านจากเงาของแสงแดดที่ตกกระทบลงมายังขีดเครื่องหมายเชื่อกันว่าเริ่มใช้ครั้งแรกกันในยุคสมัยอียิปต์โบราณหรือประมาณ 6,000 ปีที่แล้ว ในยุคนั้นจะแบ่งเวลาออกเป็น 12 ช่วง ซึ่งขีดเครื่องหมายที่อยู่บนพื้นก็จะมี 12 ขีดเช่นกัน  

ต่อมาไม่นานมนุษย์เริ่มพัฒนาและปรับเปลี่ยนมาใช้ “นาฬิกาน้ำ” เป็นเครื่องมือในการบอกเวลาแทนการใช้แสงจากดวงอาทิตย์ เนื่องจากน้ำมีประสิทธิภาพและมั่นคงมากกว่าแดดโดยอาศัยการนำภาชนะดินเผามาบรรจุน้ำและวัดเวลาจากการไหลของน้ำตามปริมาณที่กำหนดไว้ แต่ข้อเสียของนาฬิกาน้ำก็คือไม่สามารถใช้ได้ในฤดูหนาวเพราะว่าน้ำจะมีการแข็งตัว
และในยุคต่อมาได้มีการคิดค้นนาฬิกาขึ้นมาใหม่โดยนำทรายมาบรรจุอยู่ในแก้วเป่าที่มีลักษณะสองชั้น มีรูเล็กๆกั้นอยู่ระหว่างกลาง สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอุปกรณ์จับเวลา  ถือเป็นนาฬิการุ่นแรกที่ไม่อาศัยหลักการธรรมชาติจาก ฟ้า ลม แสงแดด หรือที่รู้จักกันในชื่อ “นาฬิกาทราย”     

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 12  มนุษย์ได้มีการนำฟันเฟืองหรือกลไกลที่เคลื่อนให้เฟืองขยับไปข้างหน้าในจังหวะที่สม่ำเสมอมาบรรจุอยู่ในนาฬิกาเพื่อให้มีความเที่ยงตรงมากขึ้นแต่ก็ต้องบอกว่ายังไม่มีความมั่นคงสักเท่าไหร่นัก จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1510  เป็นต้นมา มีนักปราชญ์หลายคนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของนาฬิกาว่าควรที่จะมีความเที่ยงตรงมากกว่าเดิมจึงเริ่มมีการพัฒนาปรับปรุงนาฬิกาขึ้นมาเรื่อยๆโดยเริ่มจากสร้างนาฬิกาที่ใช้ระบบลวดสปริง , นาฬิกาที่ทำงานด้วยระบบลูกตุ้ม (คิดค้นโดยกาลิเลโอ) ,นาฬิกาควอตซ์,นาฬิกาใช้ถ่าน,นาฬิกาข้อมือ ตลอดจนนาฬิกาดิจิตอลที่จัดว่ากำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน  
ต้องยอมรับว่านาฬิกาคืออีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์ ที่ให้ประโยชน์ในเรื่องของการบอกเวลาที่แม่นยำและมั่นคงจึงช่วยให้มนุษย์สามารถจัดระเบียบแผนชีวิตในการทำงานติดต่อสื่อสารหรือการเล่นเกมส์บนเว็บไซต์Fun88ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องประดับของมนุษย์ที่สื่อถึงรสนิยมของผู้ใส่ และสะท้อนถึงบุคลิกภาพได้เป็นอย่างดีอีกด้วย