ph
line2
facebook
ph
line2
facebook

การจัดลำดับสีเพชร

 


frontview color

ในธรรมชาติเพชรมีหลากหลายสี ตั้งแต่ขาวบริสุทธิ์ไปจนถึงสีดำสนิท สีที่นิยมมากได้แก่ สีขาว ซึ่งเพชรที่มีสีขาวบริสุทธิ์ตามธรรมชาตินั้นหาได้ยากมาก การเกิดสีของเพชรนั้น เกิดจากการที่มีธาตุอื่นเข้ามาแอบแฝงในโครงสร้างหรือเนื่องจากมีความบกพร่องของโครงสร้าง เช่น

สีเหลือง เนื่องจากมีธาตุไนโตรเจน
สีน้ำตาล เนื่องจากความบกพร่องของโครงสร้าง
สีน้ำเงิน เนื่องจากมีธาตุโบรอน
สีเขียว เนื่องจากความบกพร่องของโครงสร้างเนื่องจากถูกฉายรังสีโดยอนุภาคอัลฟ่า
สีชมพูหรือสีม่วงอมชมพู เนื่องจากความบกพร่องของโครงสร้างที่ถูกแรงเฉือน(Plastic Deformation)
สีดำ เนื่องจากมีสารคาร์บอนเป็นมลทินปริมาณมาก

โดยทั่วไปเพชรไม่มีสีเรียกว่า เพชรสีขาว แต่ในกรณีที่เพชรมีสีที่สดใสและชัดเจน จะจัดเป็นเพชรสีแฟนซี เช่น เพชรสีน้ำเงินหรือ เพชรโฮป เป็นเพชรที่มีสีน้ำเงินสดเหมือนไพลิน พบในเหมืองคอลเลอร์ มีน้ำหนักถึง 112 กะรัต เพชรสีเหลืองหรือเพชรทิฟฟานี มีสีเหลืองทองพบที่เหมืองคิมเบอร์ลี่ย์ ในแอฟริกาใต้ มีน้ำหนักถึง 287.42 กะรัต เพชรสีแฟนซีเหล่านี้จะหายากกว่าเพชรที่มีสีขาวบริสุทธ์

มาตรฐานการจัดลำดับสีของเพชรนั้นมีหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่สถาบันแต่ละสถาบันจะกำหนด แต่ที่นิยมและเชื่อถือกันมากที่สุด คือ มาตรฐานการจัดลำดับสีเพชรของสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งอเมริกา(The Gemological Institute of America- GIA) ซึ่งกำหนดไว้ดังนี้

เกรด  D, E และ F  หมายถึงเพชรไม่มีสีหรือเพชรสีขาว โดยที่สี D เป็นสีที่ขาวบริสุทธ์ไม่มีสีอื่นเจือปนเลย ส่วน E และ F ก็เป็นสีขาวเหมือนกันแต่ไม่เทียบเท่าสี D อาจมีสีอื่นเจือปนบ้างเล็กน้อย
เกรด G, H, I และ J หมายถึงเพชรที่เกือบเป็นสีขาว โดยไล่ระดับความขาวลงมาเรื่อยๆ ซึ่งถ้าสังเกตุด้วยตาเปล่าจะเห็นเป็นสีนวลๆ
เกรด K, L และ M หมายถึง เพชรที่มีสีขาวอมเหลืองจางๆ
เกรด N,O,P,Q และR หมายถึงเพชรสีเหลืองอ่อน
เกรด S จนถึง Z หมายถึงเพชรสีแฟนซี เช่น เพชรสีเหลือง เพชรสีน้ำเงิน หรือสีอื่นๆ

 การที่จะตรวจสอบว่าเพชรอยู่ในเกรดใดนั้น จะต้องตรวจสอบจากเพชรที่ยังไม่ฝังตัวเรือน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จาก การใช้เครื่องมือชั้นสูงที่มีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยในการจัดลำดับสี หรือการตรวจสอบด้วยตาเปล่า โดยการวางเพชรหน้าเพชรลงบนแผ่นวัสดุผิวเรียบสีขาวบริสุทธิ์ และต้องไม่เป็นวัสดุที่สะท้อนแสง พับสามท่อน เพื่อความสะดวกในการวางเพชร ที่สำคัญที่สุด การตรวจสอบต้องทำใต้แสงไฟที่มีสีขาวตามาตรฐาน C.I.E คือ D95 (Daylight 95 เทียบเท่ากับแสงสีขาวตามธรรมชาติถึงร้อยละ 95) หากทำการทดสอบใต้แสงที่ไม่ได้มาตรฐานจะทำให้การมองสีเพชรผิดเพี้ยนไป

เครดิต : napajewelry